วันพฤหัสบดีที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ฟุตบอลสำหรับเยาวชนไทย


          จากความสำเร็จของทีมชาติไทยที่คว้าแชมป์เอเอฟเอฟซูซูกิ คัพ มาครองได้ และเป็นพลังของแข้งรุ่นใหม่ล้วนๆ ทำให้ทฤษฎีของการพัฒนาเยาวชนเป็นเรื่องที่ทุกทีมต้องเอาใจใส่



        วงการฟุตบอลลีกของบ้านเราก็เช่นกัน อีกไม่ช้าอายุเฉลี่ยของผู้เล่นในลีกจะลดลงมากขึ้น เพราะทุกสโมสรจะกล้าผลักดันเยาวชนขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่มากกว่าอดีตที่ผ่านมา
        
        การพัฒนาแข้งรุ่นใหม่ของสโมสรจึงถือเป็นเรื่องใหญ่และต้องกล้าทุ่มทุนด้วย สโมสรไหนขาดการพัฒนาเยาวชนหรือไม่มีทีมสำรองก็คงอยู่ลำบากด้วยค่าตัวนักฟุตบอลจะพุ่งสูงขึ้นไม่มีหยุดคงจะไม่มีทีมหน้าไหนเอาเงินออกมาซื้อตัวนักเตะร่ำไป ทุกอย่างจะต้องสร้างด้วยตัวเองเท่านั้น
        
       ความสำเร็จของ บีอีซี เทโรศาสน ที่ได้สร้างฐานเยาวชนมาหลายปีก็ผลิดอกออกผลในวันนี้ที่ต่างขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีมชุดใหญ่กันพร้อมหน้าไม่ว่า "เมสซี่เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์,พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ฯลฯ
       
         หรือสโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่มีนโยบายในการผลักดันเยาวชนขึ้นชุดใหญ่มานานก็ต้องบอกว่าประสบความสำเร็จเช่นกันอย่าง สารัช อยู่เย็น, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์เมื่อส่องดูอีกหลายสโมสรก็จะเห็นแข้งอายุน้อยๆ ร่วมทีมอยู่มากมาย
        การกล้าที่จะให้เยาวชนขึ้นมาสู่ชุดใหญ่เป็นเรื่องที่ดีแน่นอน ลีกเมืองนอกเมืองนา อายุ 17-18 ปีก็มีโอกาสก้าวขึ้นชุดใหญ่แล้ว ถ้าบ้านเรายังมองแข้งกลุ่มนี้เป็นเด็กน้อยตลอดเวลาก็ยากที่จะพัฒนาทีมได้ ที่สำคัญการมีเยาวชนเล่นในลีกมากๆ ก็เป็นการพัฒนาทีมชาติไปในตัว
        
        แข้งชื่อดังในวันนี้กลายเป็นของรักของหวงของสโมสรที่ไม่ปล่อยตัวกันง่ายๆ แถมตั้งราคากันเกินเวอร์เพราะไม่อยากจะขายออก ซึ่งแน่นอนเมื่อการซื้อ-ขายนักเตะเป็นตลาด "ฝืด" ที่ไม่คึกคักเหมือนในอดีต ทางแก้ก็คือการปั้นเยาวชนขึ้นมาเอง เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าแน่นอน
        
        สโมสรใหญ่การมีเยาวชนก็เป็นการต่อยอดให้ทีมที่จะเฟ้นเพชรรุ่นใหม่ก้าวมาประดับในวงการ สโมสรเล็กๆ นอกจากประหยัดงบประมาณแล้ว บางครั้งการปั้นเยาวชนดีๆ ก็สามารถจะทำรายได้ให้กับสโมสรได้ด้วยการขายออกแล้วปั้นใหม่
     
        สโมสรเล็กๆ บ้านเราต้องมองถึงการอยู่ให้ได้เป็นลำดับแรก คุณคงไม่ได้คิดที่จะหวังเป็นแชมป์โน่น นี่ นั่น แน่นอน เอาแค่มีทีมส่งเข้าแข่งขัน สร้างสโมสรเพื่อคนท้องถิ่นได้มีกิจกรรมในการชมและเชียร์ฟุตบอลแต่ละสัปดาห์ ก็น่าจะพอแล้ว ยกเว้นว่าเมื่อทีมมีรายได้ที่มากพอ และหวังถึงความสำเร็จก็ต้องวัดกันในจุดนั้น แต่เมื่อรู้ตัวว่ายังไม่พร้อมต้องกล้าปั้นแข้งรุ่นใหม่ครับ ยิ่งสโมสรระดับจังหวัดในลีกภูมิภาค ควรให้ความสำคัญกับแข้งท้องถิ่นให้มาก ให้พวกเขารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสโมสรถ้ากล้าที่จะให้โอกาสก็อาจจะได้ช้างเผือกอีกหลายเชือกทีเดียว
       
        พร้อมๆกับการทำงานด้านการตลาดไปในตัว นักเตะบางคนฝีเท้าเก่งเกินตัวมีแนวโน้มที่จะรุ่งต่อไปในอนาคต มีโอกาสที่สโมสรใหญ่มาซื้อตัว ก็เปิดทางไปเถิดครับการหวงไว้ก็ไม่มีประโยชน์ ยกเว้นว่าคุณเป็นทีมใหญ่และต้องการประสบความสำเร็จก็อีกเรื่องที่อาจจะเก็บไว้ใช้งานเอง แต่ถ้ารู้ตัวว่าทีมเรายังไม่ใช่ การปิดกั้นนักเตะก็เป็นการตัดอากาศหายใจของเด็กคนนั้นนั่นเอง
       
        ยุคที่หลายสโมสรยังขาดความพร้อมในการสร้างทีมเยาวชน ส่วนใหญ่ก็จะมีการผูกสัมพันธ์กับโรงเรียนต่างๆที่มีชื่อเสียงทางด้านฟุตบอล ที่สโมสรจะมีสิทธิ์ในการคัดเด็กเข้าสู่ทีมก่อนเมื่อนักเตะคนนั้นเรียนจบ ขณะที่หลายสโมสรก็ผูกพันกับอะคาเดมี่ที่มีอยู่มากมายในการเป็นท่อส่งแข้งไปให้ดูตัว
       
        อีกจุดที่ทำกันก็คือการเปิดคัดเลือกนักฟุตบอลเข้าสู่ทีม บางทีมอาจจะเปิดคัดทั่วไทย เฟ้นดาวรุ่งแบบปีต่อปีแต่ถ้าจะให้ได้ประสิทธิผลสูงสุด ก็คือการมีทีมเยาวชนของตัวเองที่มีระบบการฝึกซ้อมแบบทีมชุดใหญ่ โดยมีกุนซือฝีมือดีเป็นผู้คุม การมีทีมเยาวชนแต่ได้โค้ชห่วยแตกก็อย่าลงทุนทำเลยเปลืองงบเปล่าๆเด็กๆ ก็ต้องได้เรียนรู้การฝึกที่ถูกต้องไม่ใช่ใครก็มาฝึก เชื่อเถอะคุณจะปั้นเพชรไม่ได้สักเม็ดเดียว


        
        เมื่อมีทีมเยาวชนก็ต้องบริหารจัดการแบบมืออาชีพด้วย มีการฝึกที่เข้มข้นมีเกมลงแข่งขัน มีบททดสอบ เพื่อคัดตัวก้าวขึ้นสู่ชุดใหญ่เป็นไปไม่ได้ที่นักเตะรุ่นหนึ่งจะก้าวขึ้นไปพร้อมๆกัน มันต้องมีดีและไม่ดีคละเคล้ากันไป แข้งที่ดีก็ควรสนับสนุนติดชุดใหญ่ให้เร็วเพื่อให้พวกเขาได้รับประสบการณ์ตรง เอาเป็นว่ายุคนี้อายุ 17 ปี ต้องกล้าดันติดชุดใหญ่แล้ว เล่นกับรุ่นพี่ๆปีสองปี ก็อาจเป็นซูเปอร์สตาร์ได้เลย
        
        ส่วนการผูกติดกับสถาบันหรือโรงเรียน ถ้าไม่ได้ลงไปดูเองก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร เพราะแนวทางนี้ก็จะขึ้นกับการดูแลของโรงเรียน เมื่อครบปีทางสโมสรก็ลงไปดูตัวที แล้วเลือกที่จะจิ้มเด็กเข้าสู่ทีม บางทีก็จิ้มถูก แต่บางครั้งก็จิ้มผิดวัดดวงกันไป
        
        ถึงเวลาแล้วครับที่ทุกสโมสรในทุกลีกจะต้องให้ความสำคัญกับแข้งเยาวชนรุ่นใหม่ให้มากขึ้น กล้าที่จะดันสู่ทีมชุดใหญ่ด้วยอายุที่น้อยมากเท่าไหร่ก็ยิ่งจะดีเท่านั้น